หลังจากที่ OnePlus 7 Pro ที่ได้ออกมาสร้างตำนานแห่งความไหลลื่นในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นนึงที่ผมชอบมากทั้งหน้าจอที่ลื่นสุด ๆ และยังมาพร้อมกับ Oxygen OS ที่ Optimise มาได้ลงตัวดีมาก ๆ เป็นสมาร์ทโฟนที่ผมถือใช้งานอยู่นานมาก วันนี้ก็ได้ถึงเวลาแล้วที่รุ่นพี่อย่าง OnePlus 7T Pro จะมาสานต่อตำนานแห่งความไหลลื่นนี้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าการ Minor Change ในครั้งนี้ของ OnePlus 7T Pro มันจะพัฒนาความสามารถ และให้ประสบการณ์ในการใช้งานโดนรวมได้ถึงขั้นไหนกัน

OnePlus 7T Pro

– อุปกรณ์ในกล่อง –

สิ่งที่คุณจะได้ไป 

1. ตัวเครื่อง OnePlus 7T Pro

2.  เคส TPU ใส กันกระแทกได้ดีในระดับนึง

3. คู่มือการใช้งาน + รายละเอียดการรับประกัน

4. สติกเกอร์ OnePlus 1 เซ็ต

5. เข็มจิ้มซิม

6. Adapter สำหรับชาร์จไฟ รองรับรับการชาร์จไว Warp Charge 30T (30W)

7. สาย USB Type-C to Type-C รองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T

– สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง –

กล้องหลังบน OnePlus 7T Pro ยังคงใช้ Sensor ตัวเดียวกับที่อยู่บน OnePlus 7 Pro ทั้งหมด แต่ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยการเพิ่ม Motor เข้ามาสำหรับใช้ขยับระยะให้เลนส์ Ultra-Wide ซึ่งการที่กล้องสามารถขยับตัวกล้องเข้าออกได้เล็กน้อย จะทำให้ OnePlus 7T Pro เครื่องนี้สามารถถ่ายโหมด Macro ได้ในระยะใกล้สุดที่ 2.5 เซนติเมตร แทนที่จะใช้การแยกกล้องเลนส์ Macro ออกมาแบบกล้องมือถือในรุ่นอื่น ๆ ซึ่งมันทำให้คุณภาพของภาพที่ได้จากโหมด Macro บนเครื่องนี้คุณภาพดีกว่าการใช้กล้อง Macro แยกทั่วไปที่มีคุณภาพด้อยกว่า และสิ่งที่พัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อเลยก็คือ ซอฟต์แวร์ของตัวกล้องที่ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก เห็นได้ชัดจากภาพถ่ายที่มีการทำในเรื่องของ Skin tone ที่ดีขึ้น และได้ทำการแก้ไขเรื่อง contrast ที่เหมาะสมมากขึ้น สีไม่จัดจ้านเกินไปแบบบนก่อนหน้านี้ แถมโหมดกลางคืนก็ทำได้โหดขึ้นมาก สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะการถ่ายโหมด

สำหรับ OnePlus 7T Pro รุ่นนี้ก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องของระบบการชาร์จไฟเพิ่มเติมเข้ามา ด้วยเทคโนโลยี Warp Charge 30T ที่พัฒนาขึ้นให้ปลอดภัยมากขึ้น ช่วยถนอมแบตเตอรี่มากขึ้น เวลาชาร์จเกิดความร้อนน้อยลง ชาร์จไปเล่นไปได้โดยไม่ต้องกลัวเรื่องความร้อนเลย(ไม่แนะนำให้ทำตาม) แต่ยังคงใช้ Adapter Warp Charge 30 ตัวเดิมเพราะในการพัฒนาส่วนนี้จะเป็นการพัฒนาที่แผงวงจรของตัวเครื่อง ในการชาร์จก็ยังคงเป็นแบบ 30W เช่นเดิม ส่วนลำโพงคู่แบบ Stereo พร้อมมาเทคโนโลยี Dolby Atmos ก็ยังคงทำได้ดีเช่นเดิมหายห่วงในเรื่องของอรรถรสในการเสพสื่อต่าง ๆ ได้เลย

OnePlus 7T Pro รุ่นปกติจะมีเพียงสีเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือสี Haze Blue นั่นเอง เป็นสีที่ไล่โทนจากสีเงินไปเป็นฟ้าอ่อน จากนั้นไปจบที่สีน้ำเงินเข้ม โดยจะมีความพิเศษตรงที่ฝาหลังในรุ่นนี้จะมีการทำผิววัสดุเป็นแบบด้าน ซึ่งจะคล้ายการยิงทรายลงบนผิวกระจก ทำให้ฝาหลังในรุ่นนี้ไม่ติดรอยนิ้วมือง่าย จับแล้วกระชับมือ ไม่ลื่น แถมยังช่วยลดรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นจากกุญแจ หรือเหรียญในกระเป๋าได้อีกด้วยนะ และมีการเพิ่มเติมมาเล็กน้อยในเรื่องของแบตเตอร์รี่ที่เพิ่มมาจากเดิม 4,000 mAh ขึ้นมาเป็น 4,085 mAh ซึ่งในการใช้งานจริงก็ไม่เห็นความแตกต่างมากนัก ยังคงสามารถใช้งานได้ถึงเย็นสบาย ๆ ในใช้งานทั่วไปปกติไม่ได้เล่นเกม

– ประสิทธิภาพ –

โดยในรุ่นนี้ก็ได้มีการเพิ่มเติมขยับมาใช้ SOC ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 855+ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีการจัดการพลังงานกับความร้อนได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องความแรงไม่ต้องพูดถึงหายห่วงแน่นอน มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno™ 640 แถมขึ้นชื่อว่าเป็น Oxygen OS แล้วละก็สบายใจได้เลยไม่ว่าจะเล่นเกม หรือจะใช้งานทั่วไปก็เหลือ ๆ ครับ และก็พ่วงมากับหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 สุดแรงอีกเช่นเดิมสุดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

– ลัดเลาะรอบเครื่อง –

OnePlus 7T Pro มาพร้อมกับหน้าจอตัวเดียวกับ OnePlus 7 Pro ซึ่งเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงมาก ๆ ทั้งลื่นไหลด้วยหน้าจอแบบ 90 Hz แถมสีสันของหน้าจอ รวมถึงความละเอียด Quad HD+ หรือ 2K ที่เหลือกินเหลือใช้ ต้องยอมรับว่าหน้าจอบน OnePlus 7T Pro เป็นหน้าจอที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะให้ได้แล้ว ทั้งยังรองรับขอบเขตสีกว้างถึงแบบ DCI-P3 แบบ 100% และรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ แถม OnePlus 7T Pro ยังรองรับ Widevine อยู่ในระดับ L1 ด้วยกันทั้งคู่ สามารถดู Netflix ได้แบบ HD และรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ บน Netflix ด้วย ถ้าให้สามคำสำหรับหน้าจอของ OnePlus 7T Pro ก็คือ สวย คม ลื่น

กล้องหน้าก็ยังคงใช้เป็นตัวเดียวกับ OnePlus 7 Pro ตัวเดิม ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว ได้ภาพมุมกว้างกำลังดี Skin Tone สวย และยังคงถ่ายในที่แสงน้องได้ดี กับการที่ให้รูรับแสงมากว้างถึง f/2.0 และกล้องหน้ามีมุมกว้างพอสมควร

ด้านขวาของตัวเครื่องยังคงมาพร้อมกับ Alert Slider สำหรับเปลี่ยนโปรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันผมชอบอันนี้มากได้ใช้งานจริงบ่อยสุด ๆ และก็ปุ่มปิด-เปิดเครื่อง

ด้านซ้ายก็จะมีเพียงปุ่ม เพิ่มเสียง-ลดเสียง แต่สิ่งที่พิเศษเพิ่มเติมเข้ามาก็คือการไล่สีของตัวเฟรมเครื่องจากสีเงินไล่ไปเป็นสีฟ้าอ่อนสวยงามมาก ๆ กับสีที่เขาเรียกว่า Haze Blue นั่นเอง

ด้านบนตัวเครื่องก็เรียบ ๆ มีกล้อง POP-UP และไมค์ตัวที่ 3 สำหรับตัดเสียงรบกวน

– ทดสอบการเล่นเกม –

ในการเล่นเกมก็ทำได้สบาย ๆ หายห่วง สามารถปรับสุดได้สบาย เกมยอดนิยมในปัจจุบันก็เอาอยู่หมด แถมตอนเล่นไปชาร์จไปอุณหภูมิตัวเครื่องยังแค่ 40 องศาเท่านั้น (เล่นในห้องอุณหภูมิ 27 องศา)

–  ภาพถ่ายกล้องหลัง  –

Ultra-Wide

Portait Mode

Normal

Night Scape Mode

Macro

– ภาพถ่ายกล้องหน้า –

Normal

Portait Mode

ใครอยากดูภาพต้นฉบับเพิ่มเติมสามารถตามลิงก์นี้ไปได้เลยครับ

https://photos.app.goo.gl/pPVr1k4oS7QPXPxH9

– Spec –

  • หน้าจอ Fluid AMOLED Display ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ (2K) รีเฟรชเรท 90Hz
  • SOC Snapdragon 855+ AIE มีระบบระบายความร้อน
  • RAM 8GB LPDDR4X
  • หน่วยความจำ 256GB แบบ UFS 3.0 ไม่รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลังหลัก 48MP f/1.6 + กล้องเลนส์ซูม Optical 3x ความละเอียด 8MP f/2.4 OIS + กล้องเลนส์ Ultra-Wide Angle 117 องศา ความละเอียด 16MP f/2.2
  • กล้องหน้า 16MP f/2.0 แบบ Pop-Up
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • ลำโพงคู่สเตอรีโอ Dolby Atmos
  • สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • Battery 4085 mAh รองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T
  • OS Android 10 ครอบด้วย OxygenOS 10

บทสรุป

หลังจากที่ผมได้ใช้งาน OnePlus 7T Pro มาร่วมนับเดือน โดยรวมถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ลงตัวมาก ๆ อีกหนึ่งรุ่น เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในการใช้งานสุด ๆ ถ้ากำงบไว้ประมาณ 26,990 บาท นี้เจ้า OnePlus 7T Pro ก็เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ต้องคิดมากที่จะเลือกซื้อเลย ดีไซน์ก็ทำออกมาได้ลงตัวมาก ๆ OnePlus 7T Pro รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการประสบการ์ณใช้งานที่ลื่นไหล แบบที่ไม่มีใครให้ได้ ทั้งหน้าจอที่มีค่า refresh rate สูงถึง 90 Hz ระบบปฎิบัติการสุดสมูทอย่าง Oxygen OS บน Android 10 มาตั้งแต่แกะกล่อง รวมถึงประสิทธิภาพเหลือ ๆ ของ Snapdragon 855+ แถมยังพ่วงมากับหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ที่เขียนอ่านได้ไวสุด ๆ เปิดแอฟต่าง ๆ ก็ลื่นไหลปรื้ดปราด ไม่ว่าจะสายบันเทิง สายเกมส์ สายทำงาน แม้จะสายถ่ายรูปก็เหมาะที่จะเป็นเจ้าของได้ทั้งนั้น โดยใครเป็นสายถ่ายรูปขอบอกเลยว่าต้องประทับใจมาก ๆ ทั้งความเทพของ HDR ในรุ่นนี้ที่ถ่ายย้อนแสงแบบไม่ต้องกลัว เลนส์ไวด์ที่รายละเอียดดีมาก ๆ กว้างสบาย ๆ แถมยังมีโหมด Night Scape สุดโหดมาด้วยโดยพิเศษตรงสามารถใช้เลนส์ไวด์ถ่าย Night Scape ได้นี่แหละแถมทำมาได้ดีมาก ๆ ใช้งานจริงได้เลย ผมว่าในรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาซอฟต์แวร์กล้องได้ลงตัวมาก ๆ จะมีแค่เรื่องความฟุ้งของแสงตอนถ่ายรูปคนด้วยโหมด Portrait ที่ต้องรอการอัพเดทแก้ไขต่อไป สำหรับวันนี้ผมก็ขอจบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันในรีวิวถัด ๆ ไป บ้ายบาย

จุดเด่น

  1. หน้าจอใหญ่ คุณภาพดี ความละเอียดสูง ขอบเขตสีกว้าง ลื่นหัวแตกด้วยจอแบบ 90 Hz
  2. ซอฟต์แวร์กล้องฉลาด ทำภาพออกมาได้ดีมาก HDR เทพสุด ๆ ถ่ายย้อนแสงสบาย ๆ Macro ก็คุณภาพดีมาก
  3. เครื่องจัดการพลังงานได้ดี แบตอยู่ได้เต็มวัน ชาร์จไปเล่นไปเครื่องไม่ร้อน แล้วชาร์จโคตรไว
  4. ลำโพงคู่หน้าเสียงดี มีมิติฟังแล้วได้อรรถรส
  5. ประสิทธิภาพเหลือล้นในการใช้งานหนัก ๆ ไม่ว่าจะใช้ทำงานหนัก ๆ หรือเล่นเกมก็เอาอยู่สบาย ๆ ด้วย Snapdragon 855+

ข้อพิจารณา

  1. ไม่มีพอร์ท 3.5 mm.
  2. เวลาถ่ายคนโหมด Portrait แสงจะออกฟุ้ง ๆ ไปหน่อย (รออัพเดทแก้ไข)

วาร์ปในสั่งซื้อ http://bit.ly/2JFM10b

Leave a Reply