ขอกราบสวัสดีเพื่อน ๆ อีกเช่นเคย วันนี้ผมจะมารีวิว Vivo V20 Pro 5G กับสมาร์ตโฟน 5G ราคาจับต้องได้ รุ่นใหม่จากทาง Vivo ที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพ ทั้งกล้องหน้า และ กล้องหลัง พร้อมรองรับการใช้งาน 5G ในไทยในงบหมื่นกลาง หลังจากที่ผมได้ทดสอบใช้งานจริงมา สมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะคุ้มค่าอย่างที่เขาว่ากันไว้ไหม กล้องรุ่นนี้เทพอย่างที่เขาบอกไหม ในราคาค่าตัว 14,999 บาท จะได้อะไรบ้าง มีข้อพิจารณาอะไรบ้าง วันนี้ผมจะมาแชร์ให้ทุกคนได้รับชมไปพร้อมกันครับ

– Spec –

  • หน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผลแบบ HDR10
  • CPU Snapdragon 765G
  • RAM 8GB (LPDDR4x)
  • Storage 128GB (UFS 2.1)
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก Wide 64MP f/1.89
    • กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.2
    • กล้อง B&W 2MP f/2.4
  • กล้องหน้า 2 ตัว
    • กล้อง Wide 44MP f/2.0
    • กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.28
  • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • รองรับ 5G คลื่นความถี่ n41/n78/n1/n3/n77 แกะกล่องใช้งานได้ทันที
  • รองรับ WiFi 2.4/5 GHz Bluetooth 5.0
  • มีพอร์ต USB-C ไม่มีพอร์ต 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0
  • ขนาด 158.82 x 74.2 x 7.39 มม. เบาเพียง 170 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11
  • ราคา 14,999 บาท

วาร์ปสั่งซื้อ > https://raka.is/r/M9Pn

– อุปกรณ์ในกล่อง –

1. ตัวเครื่อง Vivo V20 Pro

2. เคส TPU ใส แบบนิ่ม

3. คู่มือการใช้งาน + รายละเอียดการรับประกัน

4. เข็มจิ้มซิม

5. Adapter Vivo Flash Charge 2.0 33 Watt 11V-3A

6. สาย USB Type-A to Type-C

7. Adapter USB-C to 3.5 mm.

8. หูฟังแบบ In-ear ของ Vivo มีไมค์ในตัว เป็นหัวแบบ 3.5 mm.

– จุดเด่น –

รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ใช้พาเนล AMOLED ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 60Hz มาด้วยในการใช้งานจริง หน้าจอสวยงาม ให้สีสันที่สวยงาม ประสบการสัมผัสที่ลื่นไหลติดนิ้ว เพลิดเพลินกับ Content ได้สบาย ๆ

รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหน้าคู่ พร้อมติ่งแบบดั่งเดิม รายละเอียดกล้องหน้าคู่

  • กล้อง Wide 44MP f/2.0
  • กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.28

รุ่นนี้เป็นสมาร์ตโฟนที่เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่ง และ Software การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมาดีมาก ๆ

รายละเอียดของกล้องหลัง 3 ตัว

  • กล้องหลัก Wide 64MP f/1.89
  • กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.2
  • กล้อง B&W 2MP f/2.4

จุดเด่นอีกอย่างของเจ้า V20 Pro 5G ที่ผมชอบมาก ๆ คือ เรื่องของความบางเบาของตัวเครื่อง V20 Pro 5G บางเพียง 7.39 มม. และ เบาเพียง 170 กรัม ในยุคนี้มือถือที่ออกมาทุกรุ่นทั้งหนัก ทั้งหนา แต่ Vivo เลือกที่จะแตกต่างเน้นความเบาบางมาในรุ่นนี้ ทำให้ผมชอบรุ่นนี้มาก ขนาดกำลังดี จับถนัดมือเอามาก ๆ

ถึง V20 Pro 5G จะเบาบางแบบนี้ แต่สามารถใส่แบตเตอรี่ 4000 mAh มาในเครื่องได้ แถมยังรองรับการชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0 33W อีกด้วย

จุดเด่นอีกอย่างที่รุ่นพี่ไม่มีแต่ V20 Pro 5G มีมาให้ คือ กล้องหน้าคู่ที่มีเลนส์ Ultra-wide แถมยังมีระบบ Auto-focus ในกล้องหน้ามาให้ด้วย ยังไม่พอยังมาพร้อมกับระบบ Eye-AF ที่แม่นยำมาก ๆ โฟกัสติดตามาก ๆ และ กล้องหน้าในรุ่นนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60FPS ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าในเรทราคานี้ มีรุ่นนี้รุ่นเดียวเลยก็ว่าได้

– ลัดเลาะรอบเครื่อง –

รุ่นนี้มาด้วยกัน 3 สีคือ Sunset Melody, Midnight Jazz, Moonlight Sonata โดยสี Midnight Jazz ที่ผมได้มา มีการไล่โทนจากสีเทาเข้มไปเป็นสีเงิน ดูหรูหราสวยงาม แถมฝาหลังยังใช้วัสดุที่เป็น กระจก โดยมีการ เคลือบผิวด้าน โดยรวมทั้งงานประกอบ และ วัสดุให้ความดูดีพรีเมี่ยมมาก ๆ จับแล้วกระชับเข้ามือ รอยนิ้วมือติดยาก ตัวเครื่องไม่ลื่น

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะโล่ง ๆ คลีน ๆ ไม่มีปุ่มใด ๆ เลย

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีเพียงปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง และ ปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง/หน้าจอ (บากเป็นตารางให้กดแล้วรู้สึกว่าเป็นปุ่มล็อกหน้าจอ)

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมี ลำโพง 1 ตัวเป็นลำโพงเดี่ยว ส่วนตรงกลางเป็น พอร์ต USB-C และ ซ้ายสุดเป็นถาดใส่ซิมแบบ 1 Slot ใช้งานได้ซิมเดียว รองรับการใช้งาน 5G ใส่ซิมใช้งานได้เลย *ไม่รองรับการใส่ Micro-SD Card เพิ่มเติม

– ประสิทธิภาพ –

รุ่นนี้มาพร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 765G พร้อม GPU Adreno 620 แถมรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับชิป 5G อย่าง X52 ที่รองรับการใช้งาน 5G ในไทยอีกด้วย ส่วนตัวผมถือว่าเพียงพอเหลือเฟือมาก ๆ ใช้งานได้ลื่นไหล และ จัดการในเรื่องของพลังงาน และความร้อนได้ดี สามารถเล่นเกมทั่วไปได้ลื่น ๆ เพียงแต่ปรับสุดไม่ได้ทุกเกม

– ทดสอบการเล่นเกม –

สามารถเล่น ROV ได้ลื่น ๆ โดยที่เฟรมค้างอยู่ที่ 60-61 FPS ไม่ดรอปลงเลย แต่พอมาเกมอย่าง PUBG ก็จะไม่สามารถปรับกราฟิกสุดได้ แต่มันก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ กับการตั้งค่ากราฟิกแบบ HDR HD และโหมดเฟรมเรทแบบ Ultra โดยรวมสำหรับผมแค่นี้ก็ลื่น ๆ เพียงพอแล้ว เพียงแต่ปรับได้ไม่สุดเท่านั้นเอง

– ภาพถ่ายกล้องหลัง  –

– ภาพถ่ายกล้องหน้า –

– บทสรุป –

หลังจากที่ได้ใช้งาน Vivo V20 Pro 5G มาร่วมเดือน ผมค่อนข้างชอบสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของความเบาบาง และ การถ่ายภาพ มีลูกเล่นเยอะไม่ โดยเฉพาะในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ทำได้โหดไม่แพ้รุ่นพี่ ผมชอบมากกว่า Vivo X50 Pro 5G สะอีก ด้วยราคาค่าตัว 14,999 บาท เทียบกับสิ่งที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามากกว่า ประสบการณ์ในการใช้งานอย่างอื่นก็ครบ ทั้งหน้าจอที่สีสันสวยงาม และตัวเครื่องที่ขนาดกำลังดี นำหนักเบา และ บาง รุ่นนี้เป็นสมาร์ตโฟนที่มีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่ง และ วิดีโอมาก ๆ เพราะทั้งกล้องหน้า และ กล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60FPS ได้ แถมกล้องหน้าให้ Eye-Focus มาให้อีกด้วย (รุ่นพี่ไม่มีมาให้นะ) ถ้าใครที่ถามหาสมาร์ตโฟนถ่ายรูปสวย เซลฟี่งาม ๆ ถ้าได้ลองแล้วรุ่นนี้แล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน แถมยังคุ้มค่าคุ้มราคากว่า Vivo X50 Pro 5G แน่นอน ในขณะที่ฟีเจอร์ไม่ได้ต่างกันมากนัก สรุปง่าย ๆ สั้น ๆ สำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ ถ้าใครคาดหวังในเรื่องของกล้องหน้า และ กล้องหลัง รวมถึงความคุ้มค่า บอกเลยไม่ผิดหวังแน่นอน เป็นสมาร์ตโฟนที่มีจุดเด่นเป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร เน้นในเรื่องของกล้อง การดีไซน์ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า ถ้าใครได้ลองติดใจกันทุกคนแน่นอน สุดท้ายผมก็ขอกราบลาไปเพียงเท่านี้ ไว้เจอกันในบทความต่อ ๆ ไป สวัสดีครับ

จุดเด่น

  • หน้าจอ 6.44 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียด FHD+ สีสันหน้าจอดีมาก ๆ คมชัด โดยรวมจอสวยมาก
  • กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Wide 64MP f/1.89 + กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.2 + กล้อง B&W 2MP f/2.4 กล้องหลักรายละเอียดดี ถ่ายในที่แสงน้อยโหดมาก
  • กล้องหน้าคู่ กล้องหลัก Wide 44MP f/2.0 + กล้อง Ultra-Wide 8MP f/2.28
  • ตัวเครื่อง V20 Pro 5G บางเพียง 7.39 มม. และ เบาเพียง 170 กรัม
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 33W
  • ดีไซน์สวย งานประกอบพรีเมี่ยม จับกระชับมือมาก ๆ
  • รองรับการใช้งาน 5G ในไทยตั้งแต่แกะกล่อง

ข้อพิจารณา

  • ไม่มีพอร์ต 3.5 mm. มาให้ แต่ยังดีที่แถม Adapter แปลง USB Type-C เป็น 3.5 mm. มาให้ พร้อมหูฟัง
  • ไม่รองรับการใช้งาน 2 ซิม และ Micro-SD Card เพิ่มเติม