บทความประชาสัมพันธ์
แน่นอนว่าก่อนที่จะซื้อแท็บเล็ตซักเครื่องหนึ่ง เราก็ต้องตั้งคำถามถึงจุดประสงค์ในการซื้อก่อนว่า “เราซื้อแท็บเล็ตนั้นมาทำอะไร” พร้อมดูความเหมาะสมในการใช้งาน เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม, รับ-ส่งอีเมล, เล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ฯลฯ เพราะแท็บเล็ตแต่ละเครื่องแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นหรือการใช้งานเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกยิ่งต้องพิถีพิถันพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน สำหรับมือใหม่หัดใช้แท็บเล็ตขอแนะนำกับ 4 เคล็ดลับในการเลือกแท็บเล็ต เลือกอย่างไรให้ตรงใจ และใช้งานคล่อง ไปดูกันเลย!
1. ชิปเซ็ตต้องแรง! เสริมความแข็งแกร่งให้พลังการประมวลผลที่สมบูรณ์
เป็นสิ่งสำคัญอีกข้อนึงเช่นกันที่จะต้องคำนึงก่อนตัดสินใจซื้อ ภายใต้การใช้งานที่หลากหลายประเภททั้งดูหนัง ฟังเพลง และใช้งานด้านเอกสารควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นหากได้แท็บเล็ตสเปกแรงที่มอบการประมวลผลอันทรงพลังแล้ว จะช่วยเร่งประสิทธิภาพของกราฟิก ให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ประชุมงานออนไลน์ได้อย่างไหลลื่น และเข้าถึงแอปพลิเคชันได้แบบไม่ติดขัด ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพสูงเท่าไร ก็จะยิ่งตอบสนองการใช้งานได้ดีมากเท่านั้น หากเป็นแท็บเล็ตที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ด้วยแล้วจะทำให้อัตราการรับส่งข้อมูลสูงขึ้น ลดสัญญาณรบกวนได้ดี ใช้พลังงานต่ำกว่าเดิม และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปพร้อมกัน ส่วนหน่วยความจำต้องมีมาให้แน่นๆ ซึ่งขนาด 128 GB และ RAM ขนาด 4 GB นั้นกำลังพอดี ถ้ามีหน่วยความจำเสริมได้แบบ microSD Card ก็จะช่วยลดปัญหาหน่วยพื้นที่ความจำเต็ม หรือเหลือน้อย ขณะที่แบตเตอรี่ควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 7,000 mAh เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
2. หน้าจอต้องใหญ่! ให้ภาพคมชัด พร้อมเสียงดังสะใจแบบจัดเต็ม
ขึ้นชื่อว่าเป็นดีไวซ์เพื่อการใช้งานแล้วความถนัดในการหยิบจับ ดูจอเพื่อการใช้งานต้องมาเป็นอันดับต้นๆ หน้าจอแท็บเล็ตที่ขนาดพอดีควรอยู่ที่ราวๆ 10 นิ้ว ส่วนขอบจอ และบอดี้ของตัวเครื่องต้องมีความบาง เบา สะดวกในการพกพาติดตัวไปในที่ต่างๆ ความละเอียดจอต้องสูงระดับ Full HD 1920×1080 ซึ่งเป็นความละเอียดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน รองรับการดูภาพยนตร์ คอนเทนต์หรือรายการทีวีระบบดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งมาพร้อมชุดเครื่องเสียงฉบับมินิโฮมเธียเตอร์ระดับคุณภาพ มีลำโพงและไมค์ถึง 4 ตัวด้วยแล้ว ยิ่งมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า รวมถึงวิดีโอคอลคุณภาพเยี่ยมด้วยกล้องหน้าที่ควรมีความละเอียดอย่างน้อย 5 MP นอกจากนี้หลายแบรนด์มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกแบบเพื่อลดอันตรายต่อสายตาจากการเล่นแท็บเล็ตเป็นเวลานาน เช่น หัวเว่ยนำเอาเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยลดการกระจายของแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ทำให้รู้สึกสบายตาขึ้นขณะใช้งานอีกด้วย หรือมีฟีเจอร์ eBook โหมดการอ่าน ที่ช่วยป้องกันอาการตาล้าจากการใช้งานดีไวซ์เป็นเวลานาน เมื่อเปิดใช้งานโหมด eBook หน้าจออุปกรณ์จะเปลี่ยนเป็นสีดำและสีขาวเพื่อทำให้มองเห็นได้ง่าย และช่วยให้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่สบายตายิ่งขึ้น
3. ฟีเจอร์พิเศษต้องมี! ลูกเล่นต้องดี และครอบคลุมทุกกระบวนท่าการใช้งาน
ยิ่งในยุคที่เรียกว่าเป็นยุคดิจิทัล และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเต็มตัวแล้วนั้น จำเป็นอย่างมากที่แท็ปเล็ตยุคใหม่จะต้องมีฟีเจอร์พิเศษรองรับรูปแบบการเชื่อมต่อสื่อสาร และการทำงานระหว่างกันได้อย่างครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น HUAWEI MatePad ที่มีฟีเจอร์ Multi-screen Collaboration ตัวช่วยแชร์ไฟล์งาน เอกสารและข้อมูลต่างๆ ข้ามดีไวซ์ของหัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ขึ้นไปผ่าน HUAWEI Share เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ส่วนคนที่ต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ก็มีฟีเจอร์ Multi-Window คอยอำนวยความสะดวกในการทำงานแบบยกกำลังสอง ซึ่งฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานแอปฯ ต่างๆ ในเครื่องได้พร้อมกันทีเดียวถึง 2 หน้าต่าง แถมเปิดได้พร้อมกันสูงสุดถึง 3 แอปฯ อีกด้วย ขณะที่ HUAWEI APP Multiplier ช่วยเติมเต็มความเพลิดเพลินในทุกกิจกรรมบนแท็บเล็ตให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดใช้งาน 2 หน้าจอได้ใน 1 แอปพลิเคชัน นับเป็นฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ง่ายกว่าเดิม
นอกจากโหมด eBook ที่ช่วยให้เต็มอิ่มไปกับประสบการณ์การอ่านที่สบายตาแล้วHUAWEI MatePad ยังพกพาอีกขั้นของนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับโหมด PC ที่สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วย HUAWEI Smart Keyboard คีย์บอร์ดพกพาง่าย ดีไซน์สวย และ HUAWEI M-Pencil ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Palm Rejection ระบบตรวจจับการวางมือขณะเขียน ที่ช่วยให้สามารถจดโน้ตได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นผ่านฟีเจอร์ HUAWEI Memo และ Nebo หรือขีดเขียนบนเอกสารได้อย่างอิสระ
4. คลังแอปฯ ยอดฮิต ต้องพร้อม! รองรับทั้งในแง่ของการทำงานและความบันเทิง
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เก่งเรื่องเทคนิคมากนัก และอยากได้ตัวช่วยสูตรสำเร็จมาช่วยทั้งการทำงานและสร้างความบันเทิงในเวลาเดียวกัน ขอแนะนำแท็บเล็ตรุ่นอัพเกรดอย่าง HUAWEI MatePad ที่มาพร้อม HUAWEI AppGallery ขุมทรัพย์แอปพลิเคชันดีๆ มีมาให้ครบ ทั้งแอปพลิเคชันที่สร้างมารองรับความสะดวกสบาย เหมาะแก่การทำงานอย่างแอปฯ ในกลุ่มของ Microsoft Office เช่น Word, Excel, Teams, และ PowerPoint หรือประชุมงานออนไลน์ผ่าน Zoom เป็นต้น ทั้งยังสามารถปลดปล่อยจินตนาการให้โลดแล่นบนโลกแห่งความบันเทิง ได้ผ่าน LINE TV, VIU, Mono29 หรือ Cartoon Club ช่องการ์ตูนญี่ปุ่นอันดับ 1 ของไทยก็มีพร้อมให้ดาวน์โหลด และสตรีมกันอย่างสุดเหวี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเอาใจสายนักช้อปตัวยงกับแอปฯ ซื้อของออนไลน์อย่าง Lazada และ JD Central เรียกได้ว่าอยากได้แอปฯ ตัวช่วยแบบไหน HUAWEI AppGallery เสิร์ฟให้ได้หมด!
คุ้มค่ากับการใช้งานกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับ HUAWEI MatePad ที่เหมาะอย่างยิ่งกับมือใหม่ทื่กำลังมองหาแท็บเล็ตคู่ใจ ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกมิติการทำงานได้อย่างครอบคลุม ด้วยหน้าจอใหญ่ ขนาด 10.4 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 84% มีความละเอียดสูง 2000 x 1200 พิกเซล พร้อมคุณสมบัติช่วยลดแสงสีฟ้าที่ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland อีกด้วย จัดเต็มกับระบบเสียงขั้นเทพด้วยลำโพงและไมโครโฟนอย่างละ 4 ตัวที่การันตีคุณภาพจาก harman/kardon ควบคู่กล้องหน้าและกล้องหลังที่ให้ภาพความละเอียดถึง 8 MP ตอกย้ำความเหนือชั้นของระบบการประมวลผลด้วยชิปเซ็ตขุมพลังใหม่ Kirin 820 ขนาดเล็กเพียง 7 นาโนเมตร แถมมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาถึง 2.36 GHz และการ์ดจอ Mali-G57 ทั้งยังทำงานร่วมกับ GPU-Turbo เทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เล่นเกมได้ภาพสวยและลื่นไหล ไม่มีกระตุกแน่นอน และเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด WiFi 6 ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำ 4 GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลมากถึง 128 GB พร้อมประสานความแข็งแกร่งในการใช้งานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7,250 mAh สามารถชาร์จไฟจากหมดเกลี้ยงจนเต็มได้ในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
HUAWEI MatePad แท็บเล็ตสเปกพร้อมลุยแบบมีสไตล์ ในทุกสถานการณ์ ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา สี Midnight Grey มาในราคาสุดคุ้มเพียง 9,990 บาทเท่านั้น! พร้อมรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายมากมายแบบครบวงจรอย่าง บริการเปลี่ยนคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน หากพบปัญหาการใช้งาน1 รับประกันซ่อมตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริม 1 ปี2 บริการพิเศษซ่อมตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมแบบ DOOR TO DOOR Service3 โดยสามารถส่งซ่อมที่ศูนย์บริการลูกค้าของหัวเว่ยทั่วประเทศใกล้บ้านท่าน (ค้นหาได้ที่นี่) หรือติดต่อคอลเซ็นเตอร์ที่หมายเลข 1800010111 โดยสามารถติดต่อได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 21.00 น. จับจองเป็นเจ้าของ HUAWEI MatePad ได้ที่ HUAWEI Experience Store หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ HUAWEI MatePad ได้ที่ https://bit.ly/3sgb7qt หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ที่นี่
หมายเหตุ: HUAWEI MatePad ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัย รักษาหรือป้องกันโรคหรือภาวะใดๆ
เงื่อนไขการคุ้มครอง
1บริการเปลี่ยนคืนสินค้าภายใน 7 วัน นับจากวันที่ซื้อ หากพบปัญหาการใช้งานที่ไม่ได้เกิดจากการใช้งานของลูกค้า โดยสามารถเปลี่ยนสินค้ารุ่นเดียวกันคืนได้ครั้งเดียวต่อใบเสร็จเดิมที่ใช้ซื้อสินค้าเท่านั้น ทั้งนี้ ตัวเครื่อง อุปกรณ์เสริม และกล่องอุปกรณ์ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ครบถ้วนไม่เสียหาย
2บริการซ่อมตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมของหัวเว่ยฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระยะเวลาการรับประกัน 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้าตามวันที่ในใบเสร็จ หากปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมของหัวเว่ยไม่ได้เกิดจากการใช้งานหรือการกระทำของลูกค้า โดยต้องมีใบเสร็จของสินค้านั้นๆ เพื่อรับบริการ แต่หากไม่มีใบเสร็จ สามารถใช้ใบแจ้งหนี้ สำเนาใบแจ้งหนี้ ใบรับประกันสินค้าหรือสำเนาใบรับประกันสินค้าแทนได้ โดยระยะเวลาในการรับประกันสินค้าจะเปลี่ยนเป็น 90 วัน หลังจากวันที่ผลิต (ตรวจสอบได้จากหมายเลขผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นั้นๆ) และสามารถตรวจสอบว่าเครื่องของท่านอยู่ในการรับประกันหรือไม่ได้ที่นี่
3บริการซ่อมตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมแบบ DOOR TO DOOR Service โดยต้องแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่แผนกศูนย์บริการลูกค้าใกล้พื้นที่รับบริการ ล่วงหน้า เพื่อดำเนินการนัดหมายและส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปรับเครื่องที่บ้าน/สถานที่ที่คุณสะดวกเพื่อนำกลับมาส่งให้ศูนย์บริการลูกค้าตรวจเช็คดำเนินการซ่อมบำรุง หลังจากดำเนินการซ่อมบำรุงเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะนำเครื่องไปส่งคืนให้กับคุณถึงที่บ้านหรือสถานที่นัดหมาย