
ขอกราบสวัสดีเพื่อน ๆ ชาว MTMstudioclub อีกเช่นเคย วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Huawei กัน เป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก Huawei P40 น้องเล็กนั่นเอง ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อัดเแน่นจัดเต็มเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น 5G หรือกล้องที่มีการอัพเดทมาใหม่ให้โหดมากกว่าเดิม ผมจะรีวิวให้ทุกคนได้ดูกันว่าเจ้า Huawei P40 รุ่นนี้มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง ในด้านของการใช้งานเป็นยังไงบ้าง ในราคาเริ่มต้นที่ 22,990 บาท มันน่าใช้หรือเปล่า เหมาะกับใครบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยครับ
– Spec –
- Display : พาเนล OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 60Hz
- CPU : Kirin 990 5G (7 nm+)
- GPU : Mali-G76
- RAM : 8GB
- Storage : แบบ UFS 3.0 ความจุ 128GB รองรับ NM Card เพิ่มเติม
- Back Camera : กล้องหลัก 50MP f/1.9 ขนาด 1/1.28 นิ้ว แบบ RYYB + กล้อง Ultra-wide 16MP f/2.2 + กล้อง Tele 8MP f/2.4 มี OIS + Colour Temperature Sensor
- Front Camera : กล้องหน้า 32 MP f/2.0 (Fixed Focus) + IR TOF 3D Camera
- Connection : รองรับ 5G, WiFi 6 Plus 802.11ax รองรับแบนด์วิดท์ 160 Mhz, Bluetooth 5.0
- Battery : 3,800 mAh รองรับชาร์จไว Huawei SuperCharge 22.5W
- OS : Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1
- Colors : สีขาว Comet White และ สีฟ้า Comet Blue
- IP Rating : IP53
- ราคา 22,990 บาท
วาร์ปสั่งซื้อ > https://bit.ly/3ewt5Ph
– อุปกรณ์ในกล่อง –

1. ตัวเครื่อง Huawei P40
2. เคส TPU แบบใส (เครื่องขายจริงจะมีแถมให้)
3. คู่มือการใช้งาน + รายละเอียดการรับประกัน
4. เข็มจิ้มซิม
5. Adapter ชาร์จไว Huawei SuperCharge 22.5 W
6. สาย USB Type-A to USB Type-C
– สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง –

รุ่นนี้ได้มีการอัพเกรดกล้องหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว โดยมีรายละเอียดกล้องดังนี้
- กล้องหลัก 50MP รูรับแสง f/1.9 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28 นิ้ว แบบ RYYB
- กล้อง Ultra-wide 16MP รูรับแสง f/2.2 ระยะ 17mm
- กล้อง Tele 8MP รูรับแสง f/2.4 ระยะ 80mm มี OIS
- เซ็นเซอร์ Colour Temperature Sensor ช่วยวัดอุณหภูมิสีให้ตรง
เรื่องกล้องหลังจากที่ผมได้ทดลองใช้งาน พบว่ากล้องให้โทนสีภาพที่สวยงามพอสมควร รายละเอียดดี และ ภาพมี Depth of field ที่ลึกมาก ๆ ทำให้ภาพดูมีมิติ และมีการละลายหลังของภาพที่อลังการงานสร้างสุด ๆ เพราะว่ารุ่นนี้ได้ให้กล้องหลักที่มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่มาก ๆ และทำให้ช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้โหดมาก ๆ อีกด้วย

Huawei P40 มาพร้อมกับ หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีขอบหน้าจอที่น้อยมาก ๆ โดยกล้องหน้าอยู่ในของหน้าจอด้วยการเจาะรูบนหน้าจอ ใครที่ชอบหน้าจอใหญ่เต็มตารุ่นนี้โดนใจแน่นอน
หลังจากที่ได้ใช้งานมาบอกเลยว่าหน้าจอของ Huawei P40 มันสันมันสวยมาก ๆ สีสันดี และสี่ค่อนข้างเที่ยงตรงกว่ารุ่นอื่นมาก ๆ ความละเอียดหน้าจอเหลือเฟือ ไม่ดูหยาบแน่นอน และที่สำคัญหน้าจอสามารถสู้แสงแดดได้ดีมาก ๆ

หน้าจอบริเวณด้านบนซ้ายมาพร้อมกับกล้องหน้าที่มีการเจาะรูอยู่ในหน้าจอ รายละเอียดกล้องมีดังนี้
- กล้องหน้าความละเอียด 32 MP ค่ารูรับแสง f/2.0 (Fixed Focus)
- กล้อง IR TOF 3D Camera
ซึ่งหลังจากที่ผมได้ลองใช้งานกล้องหน้าพบว่ากล้องหน้ามีโทนสีที่สวยงามมาก ๆ รายละเอียดดีด้วยความละเอียดที่สูง แถมถ่ายโหมด Portrait ที่มีการละลายหลังได้เนียนสวยมาก ๆ จากการที่ใส่ IR TOF 3D Camera เข้ามาช่วยนั่นเอง

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมดีไซน์ฝาหลังใหม่แบบผิวด้าน จับแล้วกระชับมือ ลดรอยนิ้วมือได้ดีมาก ๆ สวยงาม แปลกตา โดยรุ่นนี้มีมาด้วยกันสามสีคือ Blush Gold, Deep Sea Blue และ Silver Frost ที่ผมรีวิวในบทความนั่นเอง เมื่อโดนแสงจะสะท้อนเป็นสีเงินแบบซอฟต์ ๆ สวยงามสุด ๆ ในส่วนของวัสดุของฝาหลังจะใช้เป็นกระจก polycarbonate ที่มีความแข็งแรงสวยงาม
– ลัดเลาะรอบเครื่อง –

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง และปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง/หน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องโล่ง ๆ ไม่มีปุ่มอะไรเลย มีเพียงแถบเสาสัญญาณของตัวเครื่อง ขอบของฝาหลังด้านข้างทั้งสองฝั่งเป็นขอบโค้ง 3D ส่วนขอบด้านบน และด้านล่างเป็นแบบ 2.5D ทำให้ตัวเครื่องจับถือได้ง่าย จับกระชับมือ

ด้านล่างของตัวเครื่องมี Port USB Type-C ที่รองรับการชาร์จไวที่ 22.5W ข้าง ๆ ก็จะเป็นไมค์สำหรับสนทนา ส่วนด้านขวาสุดเป็นต่อมาเป็นลำโพง 1 ตัว ซึ่งผมประทับในมากเพราะในรอบนี่ลำโพงที่เสียงดีขึ้นกระหึ่มแบบเห็นได้ชัด ด้านซ้ายจะเป็น Slot สำหรับใส่ Sim Card และ NM Card (Memory เพิ่มเติม) แบบ Single-Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมพร้อมกัน โดย ซิมหลักรองรับเครือข่าย 5G ในไทยได้เต็มรูปแบบเลย

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และแถบเสาสัญญาณของตัวเครื่องอีก 2 เส้น
– ประสิทธิภาพ –
สำหรับ Huawei P40 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Kirin 990 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ และมีกระบวนการผลิตอยู่ที่ 7 nm+ เท่านั้น ในการใช้งานจริงก็ต้องยอมรับเลยว่าประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับต้น ๆ ของเรื่องธงเลย และยังมาพร้อมกับ Storage แบบ UFS3.0 ที่ทำความเร็วในการอ่านเขียนได้สูงมาก ๆ จนน่าตกใจ ทำให้เวลาเปิดอะไรก็ไวไปหมด หรือจะเป็นการเขียนอ่านไฟล์ต่าง ๆ ได้ประโยชน์จากตรงนี้ไปอย่างมาก ใช้งานโหด ๆ หายห่วงแน่นอนครับ
– ทดสอบการเล่นเกม –
ในส่วนของการเล่นเกม ผมขอยืนยันว่าสามารถเล่นได้ลื่นหัวแตกหายห่วงทุกเกมแน่นอน สามารถปรับกราฟฟิกได้สูงสุดเกือบทุกเกม และสิ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นในรุ่นนี้คือ เล่นเกมแล้วแบตลดช้า เล่นได้ยาวนาน จัดการพลังงานได้ดีมาก หน้าจอก็ตอบสนองการสัมผัสได้ไว แม่นยำ จอใหญ่เต็มตา
– ภาพถ่ายกล้องหลัง –
– ภาพถ่ายกล้องหน้า –
– ของเล่นที่น่าสนใจ –

อันนี้จะเป็นฟีเจอร์ Ai Remove Reflection ที่จะช่วยลบแสงสะท้อนของกระจกออกให้เรา เวลาเราถ่ายภาพผ่านกระจก อันนี้เจ๋งมาก ๆ เวลาถ่ายภาพทะลุกระจกแล้วเจอแสงสะท้อนเราสามารถมากดลบออกทีหลังได้สบาย ๆ เจ็งมาก ชอบ ๆ

เปลี่ยนที่มืดให้สว่างได้ในพริบตาใน Mode Pro เราสามารถดันค่า ISO ได้สูงถึง 409,600 กันเลยทีเดียว แล้วไม่พอในการถ่าย Video แบบ Time-lapse ตัวเครื่องสามารถดันค่า ISO ของ Video ได้สูงถึง 51,200 เลยทีเดียว
มีผู้ช่วยอัฉริยะคนใหม่ Celia ให้ได้ลองเล่นกัน เหงา ๆ ก็คุยกับ Celia เขาได้นะครับ
– บทสรุป –

หลังจากที่ผมได้ทดลองใช้งาน Huawei P40 ส่วนตัวต้องขอบอกตามตรงว่าผมค่อยข้างชื่นชอบ และประทับใจสมาร์ทโฟนรุ่นนี้พอสมควร ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่มากเล็กกำลังพอดีมือ และรุ่นนี้ได้มีการพัฒนาในแต่ละด้านออกมาจนลงตัว จุดเด่นจะเป็นในเรื่องของการรองรับเครือข่าย 5G และการใช้งาน Wi-Fi 6 Plus ที่เมื่อเทียบกับราคาของตัวเครื่องบอกเลยว่าคุ้มมา และจะไม่พูดถึงเรื่องของการถ่ายถ่ายภาพ และการถ่ายวิดีโอได่ได้เลย ใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนที่เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพที่มีโทนภาพโด่ดเด่น เป็นเอกลักษณ์ คงถูกใจแน่นอน ในรุ่นนี้กล้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีมาก ๆ ขึ้นไปจากรุ่นเดิมอีก และประสิทธิภาพการประมวลผลให้มาเหล่ือกินเหลือใช้แน่นอน คุณภาพเสียงของลำโพงก็พัฒนาขึ้นมาได้กระหึ่มสุด ๆ รายละเอียดเสียงดี และยังมีดีไซน์ของตัวเครื่องที่ดูเรียบหรู เพรียวบาง สวยงาม แบตเตอร์รี่ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้เต็มวันสบาย ทำให้ Huawei P40 รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ในการใช้งานได้ดีในหลาย ๆ ด้าน สำหรับการรีวิว Huawei P40 ผมก็ต้องขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันในบทความต่อ ๆ ไป กราบสวัสดีครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีขอบหน้าจอที่บางน้อยมาก ๆ
- กล้องหลัง 3 ตัว + 1 sensor : กล้องหลัก 50MP f/1.9 ขนาด 1/1.28 นิ้ว แบบ RYYB + กล้อง Ultra-wide 16MP f/2.2 + กล้อง Tele 8MP f/2.4 มี OIS + Colour Temperature Sensor
- ขุมพลังสุดแรง Kirin 990 5G ประสิทธิภาพเหลือเฟือในการใช้งาน
- แบตมาจุใจถึง 3,800 mAh ใช้งานได้เต็มวันสบาย ๆ รองรับชาร์จไว Huawei SuperCharge 22.5 Watt
- รอบรับการใช้งาน 5G ในไทยได้ทุกเครือข่าย และรองรับ Wi-Fi 6 Plus
ข้อพิจารณา
- ไม่ได้ให้หน้าจอ 90 Hz มาแบบรุ่นพี่
- คียบอร์ดชิดขอบเครื่องไปนิดนึง ทำให้ต้องปรับตัวในการใช้งาน คนที่ไม่ชินอาจพิมพ์ไม่ถนัดได้
– คลิป แกะกล่องพรีวิว Huawei P40 5G –