การมาครั้งนี้ของ XIAOMI ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนต้องฮือฮาอีกครั้ง หลังจากไม่ได้สัมผัสสมาร์ทโฟนราคาว้าวแบบนี้มานาน ตัวผมเองใช้ XIAOMI ครั้งแรกตอน Snapdragon 801 ในขณะนั้นยี่ห้ออื่นมีราคาประมาณ 20,000 บาท ในขณะที่ XIAOMI MI 3 ราคาประมาณ 9,000 บาทเท่านั้น โดยสามารถสั่งซื้อได้เฉพาะช่องทางออนไลน์ในบางประเทศเท่านั้น
คุณสมบัติตามที่ผู้ผลิตแจ้งมาของ XIAOMI MI 10T PRO นั้นมาพร้อมกับ MIUI12 บนระบบ Android 10 ใช้ CPU Snapdragon 865 รองรับ 5G และ wifi 6 หน้าจอมีขนาด 6.67” รองรับ HDR10 มีความละเอียดที่ FHD หน้าจอมีอัตราส่วน 20:9 มีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 144 Hz กล้องหลังมีความละเอียด 108 เมกะพิกเซล พร้อมกับกันสั่นแบบ OIS ถ่ายวิดีโอได้ถึง 8K มี Ram LPDDR5 ส่วน Storage เป็น UFS 3.1 ลำโพงสเตอริโอ แบตเตอรี่มีขนาดความจุ 5,000 มิลลิแอมป์รองรับระบบชาร์จเร็ว 33 วัตต์และมีอแดปเตอร์แบบชาร์จเร็ว 33 วัตต์และเคสกันกระแทกแถมมาให้ในกล่อง น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 218 กรัม
XIAOMI MI 10T PRO กล้องหลักมีขนาดเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1/1.33” พร้อมกันสั่นแบบ OIS ถ่ายภาพนิ่งได้ 108 เมกะพิกเซลและถ่ายวีดีโอได้ถึง 8K ในชีวิตจริงคงไม่มีใครถ่ายภาพนิ่งขนาด 108 เมกะพิกเซลหรือถ่ายวีดีโอ 8K เป็นประจำ แต่ด้วยการที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ทำให้การถ่ายภาพรวมถึงถ่ายวีดีโอในชีวิตประจำวันลงโซเชียลมีเดียแบบคนทั่วไปนั้นทำได้ง่ายกว่ากล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร์เล็ก ๆ แน่นอน
หน้าจอชนิด AdaptiveSync True Color Display มีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 144 Hz มีระบบปรับการทำงานอัตโนมัติ เช่นเมื่อเราดู Content ที่เป็น 30, 50 หรือ 60 Hz เช่นรายการทีวี ระบบจะปรับ Frame Rate ให้เป็น 30, 50 หรือ 60 Hz และเมื่อเราเล่นเกมที่รองรับ 144 Hz เราก็จะได้เสพเกมที่มีความลื่นไหลจากความแรงของ CPU Snapdragon 865 และจอ 144 Hz บอกได้เลยว่าถ้าใครใช้จอ 144 Hz จนชินแล้วถ้าต้องกลับไปใช้จอ 60 Hz จะต้องรู้สึกหงุดหงิดใจมากเลยทีเดียว
แบตเตอรี่ให้มาขนาด 5,000 มิลลิแอมป์รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ซึ่ง XIAOMI แถมอแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33 วัตต์มาให้ในกล่องด้วย แต่สำหรับผมซึ่งมีอุปกรณ์หลายตัวจึงเลือกใช้เป็นที่ชาร์จแบบ PD อันเดียวเพื่อความสะดวกเพราะว่าสามารถชาร์จได้กับทุกอุปกรณ์ที่มี คือทั้ง android/iPhone/notebook/MacBook ซึ่งก็พบว่า XIAOMI MI 10T PRO ก็รองรับ PD ชาร์จโดยจะชาร์จเข้าที่ 18 วัตต์
พูดถึงการใช้งาน MIUI 12 บน android 10 บวกกับ Snapdragon 865 โดยรวมนั้นใช้งานได้ลื่นไหลดีเข้าเกมได้เร็วเพราะมี RAM DDR5 กับ UFS 3.1 อุณหภูมิตัวเครื่องขณะเล่นเกมอุ่น ๆ ไม่ถึงกับร้อน ตัวเครื่องสำหรับผมเองนั้นเป็นคนมือเล็กจึงรู้สึกจับไม่ค่อยถนัด และรู้สึกว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักมากไปหน่อย ชอบตรงที่ย้ายสแกนนิ้วมาไว้ตรงปุ่มเปิดปิดเครื่องซึ่งทำได้สะดวกและรวดเร็วว่าไว้ใต้จอ แต่เสียดายที่เอาระบบชาร์จไร้สายและการถ่ายภาพแบบมาโครออกไป เรื่องหน้าจอตัวผมเองถนัดกับหน้าจอ 60 Hz มากกว่าเพราะว่าใช้หลายอุปกรณ์จนชินตา แม้แต่เล่นเกมบน PC ผมก็ยังเล่น 60 Hz ข้อดีของการใช้ 60 Hz คือประหยัดไฟมากเมื่อเทียบกับ 144 Hz ทั้งสมาร์ทโฟนและ PC สำหรับหน้าจอตัวนี้รองรับค่าสีทั้ง SRGB และ P3 ดังนั้นเวลาใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์อื่นจึงเห็นสีไม่ต่างกัน กล้องภาพนิ่งขนาด 108 เมกะพิกเซล และ Video 8k เอาจริงผมไม่ได้ใช้หรอกไฟล์ใหญ่เปลืองพื้นที่ แต่เราใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่ เวลาเราถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอในที่แสงน้อยจะถ่ายได้สะดวกเพราะว่า noise มีน้อยนั่นเอง และเป็นธรรมเนียมอีกเรื่องของ XIAOMI ตัวท็อปก็คือรองรับ camera2api ทำให้สามารถใช้กับ app ถ่ายวีดีโอแบบ professional ได้ไม่มีปัญหา โฟกัสวีดีโอทำได้รวดเร็วมากอันนี้โคตรชอบ
ชี้เป้า https://bit.ly/2Ij6f21 https://bit.ly/2IllCam
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง XIAOMI MI 10T PRO
ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคลจากกล้อง XIAOMI MI 10T PRO ในที่แสงภายในอาคาร
ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคลจากกล้อง XIAOMI MI 10T PRO ในที่แสงมาก ๆ
ถ้าจะซื้อ XIAOMI MI 10T PRO ก็เพราะ snapdragon 865 กล้องเซ็นเซอร์ใหญ่แล้วก็จอ 144 นี่แหละ